วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556

เนื้อเรื่องย่อเรื่องพระมาลัยคำหลวง


เนื้อเรื่องย่อเรื่องพระมาลัยคำหลวง
เริ่มเรื่องด้วยการกล่าวนมัสการพระรัตนตรัย   แล้วเล่าเรื่องพระมาลัยว่าเป็นพระอรหันต์ที่มีอิทธิฤทธิ์ มีเมตตาจิตคิดแต่จะโปรดสัตว์   พระมาลัยได้เหาะไปโปรดสัตว์ในนรก   เพื่อให้พวกสัตว์นรกได้รับความสุขและเมื่อเขาเหล่านั้นส่งความมาถึงญาติพี่น้อง   ท่านก็รับมาบอกให้ครั้งหนึ่งท่านเหาะไปยังนรก เนรมิตดอกบัวเท่ากงจักรสำหรับนั่ง   ทำให้เกิดฝนสวรรค์ตกลงมาดับไฟนรกโลหกุมภีเป็นเถ้าถ่านหมด   แม้น้ำกรดก็แห้ง  ภูเขาไฟก็ทลาย  ต้นงิ้วก็หมดหนาม  สัตว์นรกทั้งปวงก็มีความยินดียกมือไหว้แล้วถามว่ามาจากไหน   พระมาลัยก็บอกว่าท่านเป็นมนุษย์   สัตว์นรกเมื่อทราบก็มีความยินดีและขอให้พระมาลัยส่งข่าวบอกญาติของตนในเมืองมนุษย์   ให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลส่งไปให้ด้วย   ให้บูชาพระพุทธเจ้า  พระธรรม พระสงฆ์   ให้ทานคนยากจนกรวดน้ำส่งมาให้แก่พวกเขาด้วย   เพื่อพวกเขาจะได้พ้นทุกข์   พระมาลัยก็นำความมาบอกให้คนทั้งหลายทราบตามที่สัตว์นรกฝากมา   ผู้คนในโลกมนุษย์ก็ได้ทำบุญ   กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้  พวกที่อยู่ในนรกก็ยินดีและกุศลที่ส่งมาก็ทำให้พวกเขาได้ไปเกิดในสวรรค์   เมื่อพระมาลัยเหาะไปยังสวรรค์   ก็ได้พบว่าพวกเขาพ้นทุกข์แล้ว   ก็ได้นำความบอกให้ญาติพี่น้องทั้งหลายในโลกมนุษย์ทราบ และเล่าเรื่องบนสวรรค์ให้คนทั้งหลายทราบ   ทำให้ผู้คนมีความเชื่อในพุทธศาสนามากขึ้น   เร่งทำบุญกันอย่างไม่ประมาทอุทิศบุญกุศลให้แก่ญาติพี่น้องเสมอ   มีใจฝักใฝ่ให้ทานทั่วไปเพราะได้ฟังวาจาของพระมาลัยที่แจ้งให้ทราบโดยละเอียด   วันหนึ่งพระมาลัยได้ออกบิณฑบาตเพื่อโปรดสัตว์   ได้มีชายคนหนึ่งเอาดอกบัว ๘ ดอกมาถวาย   พร้อมทั้งอธิษฐานว่าไม่ว่าจะเกิดในชาติใด   ขอให้อย่ามีความทุกข์และขอให้มีทรัพย์มากมายทุกชาติ   เมื่อพระมาลัยรับดอกบัวแล้วก็คิดถึงเจดีย์จุฬามณีที่บนสวรรค์   จึงเหาะไปยังสวรรค์ เมื่อไปถึงเจดีย์จุฬามณีแล้วก็ทำทักษิณาวัตรรอบเจดีย์นั้น   ถวายนมัสการทั้ง ๘ ทิศและถวายดอกบัวทั้ง ๘ ทิศ   แล้วนั่งลงไหว้ด้วยความชื่นชม   ในขณะนั้นพระอินทร์ก็พาบริวารมานมัสการเจดีย์   พบพระมาลัยจึงพากันมานมัสการพระมาลัยด้วยและถามพระมาลัยว่ามาจากที่ใด   ทำไมจึงมาอยู่ที่นี่   พระมาลัยก็บอกว่าท่านมาจากโลกมนุษย์   มาเพื่อนมัสการพระเจดีย์จุฬามณีและพระมาลัยก็ถามพระอินทร์ถึงสาเหตุที่เทวดาทั้งหลายทำบุญบำเพ็ญกุศลกันอีก    ทั้งๆ ที่ได้รับความสุขอยู่บนสวรรค์แล้ว   พระอินทร์จึงอธิบายว่าที่เทวดาทั้งหลายทำบุญกันก็เพื่อหวังผลบุญในชาติหน้า   จะได้อยู่ในสวรรค์ชั้นที่สูงขึ้น   เป็นการเพิ่มพูนผลบุญให้ยิ่งขึ้นไปอีก   จนกว่าจะถึงนิพพาน
พระมาลัยถามพระอินทร์ถึงพระศรีอาริยเมตไตรย   พระอินทร์บอกว่าพระศรีอาริยเมตไตรย   เสด็จมานมัสการพระเจดีย์ทุกวันพระ คือ วันแปดค่ำและสิบห้าค่ำและวันนี้ก็เป็นวันพระ   พระมาลัยจึงรอการมาของพระศรีอาริยเมตไตรย   ในระหว่างนั้นพระอินทร์ก็เล่าให้พระมาลัยทราบถึงการบำเพ็ญกุศลของเทวดาต่าง ๆ ที่มานมัสการพระเจดีย์จุฬามณีว่าแต่ละองค์ก่อนจะมาเกิดเป็นเทวดา  ได้บำเพ็ญกุศลอะไรไว้บ้าง ดังนี้
เทวดาที่มานมัสการพระเจดีย์พร้อมบริวารร้อยองค์   เมื่อก่อนเป็นมนุษย์ที่ยากจนเข็ญใจ   มีอาชีพเกี่ยวหญ้าขายเลี้ยงชีพให้ทานข้าวเพียงก้อนเดียว   เมื่อตายก็ได้มาจุติบนสวรรค์มีบริวารร้อยองค์  
เทวดาพร้อมบริวารหนึ่งพันองค์เดิมเป็นคนเลี้ยงโคอยู่กลางไร่   เอาอาหารไปให้ทานแก่เพื่อนเลี้ยงโคด้วยกัน   เมื่อตายก็ได้มาเกิดเป็นเทวดา มีบริวารหนึ่งพันและมีรูปโฉมเป็นที่พึงใจ
เทวดาพร้อมบริวารหนึ่งหมื่น   เมื่อตอนเป็นมนุษย์ถวายอาหารแด่สามเณรผู้ถือศีล   ผลบุญส่งให้มาเกิดเป็นเทวดาพรั่งพร้อมไปด้วยสมบัติและบริวาร
เทวดาพร้อมบริวารสองหมื่น   มานมัสการพระเจดีย์พระอินทร์ก็อธิบายให้พระมาลัยฟังว่า  แต่เดิมเป็นมนุษย์ได้ถวายบิณฑบาตแด่พระสงฆ์   เมื่อตายก็ได้เกิดบนสวรรค์ มีบริวารสองหมื่น  หากบุคคลใดได้ทำบุญก็จะได้ผลเช่นกัน
เทวดาองค์หนึ่งมีรัศมีโชติช่วง   พร้อมด้วยบริวารสามหมื่นมานมัสการเจดีย์   เดิมเป็นเศรษฐีชื่อบริบาล มีศรัทธาในพระรัตนตรัย   ทำบุญให้ทานทั้งผ้า อาหาร และยา ด้วยผลบุญนี้ทำให้มาจุติเป็นเทวดา   มีบริวารสามหมื่น
เทวดาพร้อมด้วยบริวารสี่หมื่น  เดิมเป็นช่างทอผ้าที่ยากจนได้ถวายเครื่องอัฐบริขารแด่พระสงฆ์  เมื่อตายไปจึงได้ไปเกิดเป็นเทวดาเพราะผลบุญที่ทำไว้
เทวดาอีกองค์หนึ่งพร้อมด้วยบริวารห้าหมื่น   เดิมชื่อดิษราช   เป็นผู้ที่บูชาพระรัตนตรัยรักษาพระธรรม  เคารพพระสงฆ์  รักษาศีลแปดในวันอุโบสถเสมอ   ไม่เคยเบื่อหน่ายต่อการทำทานแก่คนยากจน   เมื่อตายไปกุศลจึงส่งให้ได้เกิดเป็นเทวดามีบริวารมากมาย
เทวดาพร้อมบริวารหกหมื่น   เดิมเป็นพระเจ้าแผ่นดินชื่อท้าวอภัยทุษฐ์พอใจให้ทานบำรุง  รักษา  พระรัตนตรัย   ยกย่องพระพุทธศาสนา   อุปถัมภ์บิดามารดา  บริจาคจตุปัจจัย  ให้ทานอยู่เสมอ  รักษาศีลเป็นกิจวัตร   จึงได้มาเกิดเป็นเทวดาที่มีบริวารและสมบัติมากมาย
เทวดาพร้อมบริวารเจ็ดหมื่น   แต่เดิมเป็นสามเณรชื่อเทเวนทร์   รักษาศีลอยู่เสมอ   รับใช้อุปัชฌาย์อย่างดีไม่เคยละเลยหน้าที่ไม่เกียจคร้านในการศึกษาพระธรรม   ผลบุญจึงส่งให้ได้มาเกิดเป็นเทวดา
เทวดาพร้อมบริวารแปดหมื่น  เดิมเป็นคนยากจนเห็นพระสงฆ์บิณฑบาตอยู่ตามทาง   ก็เอาอาหารของตนไปถวายและบอกชาวบ้านให้นำอาหารมาถวายด้วย   ชาวบ้านก็ชื่นชมและนำอาหารมาถวาย   การที่ทำบุญและได้ชักชวนให้ผู้อื่น   ทำบุญด้วยจึงได้รับผลเช่นนี้
เทวดาพร้อมบริวารเก้าหมื่น  เดิมอยู่ที่ลังกาเห็นสถูปบรรจุพระธาตุของพระพุทธเจ้าก็มีความศรัทธา จึงนมัสการและถวายดอกกรรณิการ์อยู่เสมอ   และอุทิศศีรษะเป็นดอกบัวดวงตาทั้งสองต่างดวงไฟ   วาจาต่างเทียน   อุทิศใจต่างเครื่องหอม บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตลอดไป
เทวดาพร้อมบริวารหนึ่งแสน   เดิมอยู่เมืองอนุราช   เป็นคนเกี่ยวหญ้าขายเลี้ยงชีพ รักษาศีล และยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง  ได้ไปพบหาดทรายขาวสะอาด  จึงนำทรายมาสร้างพระเจดีย์ประดับประดาด้วยดอกไม้  แล้วนมัสการด้วยความชื่นชมยินดี  ทำแต่ความดี  ซื่อสัตย์สุจริตอยู่เสมอจึงได้รับผลดังที่ได้เห็นเช่นนี้
จากนั้นพระศรีอาริยเมตไตรยก็เสด็จมาพร้อมกับเทวดานางฟ้าเป็นแสนเป็นโกฏิดูสว่างไสว   สวยงาม เสียงฆ้องกลองดังกึกก้อง   ดุริยางค์บรรเลงไพเราะยิ่งนัก   พระศรีอาริยเมตไตรยอยู่ท่ามกลางบริวาร   งดงามดังพระจันทร์ทรงกลด   เทวดาก็ดุจดวงดาวที่ล้อมรอบพระองค์   มีรัศมีเป็นประกายงดงามสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า   เทพทั้งหลายต่างพากันก้มลงกราบ   พระอินทร์อธิบายให้พระมาลัยฟังว่าเทวดาและนางฟ้าที่แต่งกายด้วยเครื่องประดับขาวสะอาดเป็นประกายวาวประดุจเพชรนั้น   เพราะในชาติก่อนบำเพ็ญกุศลที่ประณีตยิ่ง   ของที่จะทำบุญให้ทานทุกอย่างจะขาวสะอาดทั้งหมด   นอกจากนี้ยังรักษาอุโบสถศีลเป็นนิจและที่แต่งกายด้วยสีเหลืองทั้งหมด   เพราะทำบุญด้วยเครื่องที่มีสีเหลืองล้วน  บูชาพระรัตนตรัยและถือศีลอย่างสม่ำเสมอ   จึงมีรัศมีเป็นสีเหลือง  เหมือนสีแดดในยามเช้านอกจากนี้ยังมีเทวดานางฟ้าที่แต่งกายด้วยเครื่องประดับสีแดง  สีเขียว  ซึ่งแต่ละองค์ได้ทำบุญกุศลมาแล้วทั้งนั้น  จึงได้มาเกิดเป็นเทวดาประดับพระบารมีของพระศรีอาริยเมตไตรย
พระมาลัยถามพระอินทร์ถึงพระศรีอาริยเมตไตรยว่า   ในชาติก่อนนั้นได้ทำบุญอะไรบ้าง   พระอินทร์ก็ตอบว่าปัญญาของท่านน้อยยิ่งนัก   จึงขอตอบแต่พอสังเขปว่าพระศรีอาริยเมตไตรยมีพุทธบารมีสามสถานคือ ปัญญา ศรัทธา วิริยะ พระองค์มีความเพียร มีความสามารถ นมัสการพระรัตนตรัยด้วยกาย วาจา ใจ พร้อมด้วยความสุจริตทุกประการมาเป็นเวลานานนับกัลป์  พระองค์ยังได้บริจาคยิ่งใหญ่ทั้งห้าประการ บำเพ็ญบารมีอย่างครบถ้วน คือ ทศบารมี ทศอุปบารมี และทศปรมัตถ์รวม ๓๐ ประการ  และยังมีคุณวิเศษอีกซึ่งพระอินทร์ไม่สามารถจะเล่าให้หมด  พระศรีอาริยเมตไตรยได้บำเพ็ญเพียรอันยิ่งใหญ่มาเป็นเวลานับอสงไขย   เมื่อบารมีครบถ้วนก็มาอุบัติยังสวรรค์ชั้นดุสิต   และเมื่อครบกำหนดแล้วก็จะเสด็จมายังโลกมนุษย์ เพื่อปฏิบัติพุทธกิจ
ขณะที่พระมาลัยตรัสอยู่กับพระอินทร์นั้น   พระศรีอาริยเมตไตรยพร้อมทั้งบริวารก็เสด็จไปนมัสการพระจุฬามณีกระทำทักษิณาวัตรแล้วบูชาด้วยดอกไม้   ดุริยางค์บรรเลงเพลงเป็นการบูชาแล้วจึงนมัสการพระมาลัยและถามว่าพระมาลัยมาจากไหน   พระมาลัยตอบว่าท่านเป็นมนุษย์มานมัสการพระเจดีย์จุฬามณี   พระศรีอาริยเมตไตรยจึงตรัสถามถึงความเป็นไปในโลกมนุษย์เกี่ยวกับ   การทำบุญกุศลพระมาลัยก็ตอบว่ามนุษย์ส่วนมากทำบุญและปรารถนาจะได้เฝ้าพระศรีอาริยเมตไตรย   พระศรีอาริยเมตไตรยจึงตรัสสั่งพระมาลัยให้มาบอกมวลมนุษย์ว่าถ้าอยากพบพระองค์ก็จงทำบุญกุศล   ฟังเทศน์มหาชาติ รักษาศีล ฟังธรรม นอกจากนี้พระศรีอาริยเมตไตรยยังกล่าวถึงความเป็นไปเมื่อศาสนาของพระสมณโคดมครบห้าพันปีมนุษย์ที่ทำบาป   ก็จะฆ่าฟันกันตาย
จะเหลือแค่ผู้ที่ทำบุญกุศล   จากนั้นในโลกก็จะมีแต่ความสงบสุข   เมื่อพระศรีอาริยเมตไตรยกล่าวจบก็นมัสการลาพระมาลัยกลับไป
พระมาลัยนมัสการพระเจดีย์จุฬามณีและลาพระอินทร์กลับลงมายังโลกมนุษย์   และนำเรื่องพระศรีอาริยเมตไตรยมาเล่าให้มนุษย์ในโลกฟังทุกคนที่ได้ฟังก็ชื่นชมยินดี   ชวนกันทำบุญทำทานจนสิ้นชีวิต   ก็ได้ไปเกิดบนสวรรค์   ตามบุญกุศลที่ตนทำไว้   สำหรับชายที่ถวายดอกบัว ๘ ดอกแด่พระมาลัย   เมื่อตายไปก็ได้ไปเกิดบนสวรรค์   มีวิมานที่สวยงามเต็มไปด้วยดอกบัวพร้อมด้วยนางฟ้าเป็นบริวารหนึ่งพัน  มีความสุขอยู่บนสวรรค์จนพระทั่งสิ้นอายุไขยตามกุศลที่ได้สร้างมา
ตอนจบของเรื่องกวีได้บอกปณิธานของท่านไว้ว่าเดชะบุญ    ที่ได้เพียรพยายามแต่งเรื่องนี้จนสำเร็จ ขอให้ท่านได้พบกับพระศรีอาริยเมตไตรยจากนั้นก็บอกวัน เดือน ปี    ที่ทรงแต่งเรื่องนี้เสร็จ

เนื้อเรื่องย่อเรื่องพระมาลัยคำหลวง


เนื้อเรื่องย่อเรื่องพระมาลัยคำหลวง
เริ่มเรื่องด้วยการกล่าวนมัสการพระรัตนตรัย   แล้วเล่าเรื่องพระมาลัยว่าเป็นพระอรหันต์ที่มีอิทธิฤทธิ์ มีเมตตาจิตคิดแต่จะโปรดสัตว์   พระมาลัยได้เหาะไปโปรดสัตว์ในนรก   เพื่อให้พวกสัตว์นรกได้รับความสุขและเมื่อเขาเหล่านั้นส่งความมาถึงญาติพี่น้อง   ท่านก็รับมาบอกให้ครั้งหนึ่งท่านเหาะไปยังนรก เนรมิตดอกบัวเท่ากงจักรสำหรับนั่ง   ทำให้เกิดฝนสวรรค์ตกลงมาดับไฟนรกโลหกุมภีเป็นเถ้าถ่านหมด   แม้น้ำกรดก็แห้ง  ภูเขาไฟก็ทลาย  ต้นงิ้วก็หมดหนาม  สัตว์นรกทั้งปวงก็มีความยินดียกมือไหว้แล้วถามว่ามาจากไหน   พระมาลัยก็บอกว่าท่านเป็นมนุษย์   สัตว์นรกเมื่อทราบก็มีความยินดีและขอให้พระมาลัยส่งข่าวบอกญาติของตนในเมืองมนุษย์   ให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลส่งไปให้ด้วย   ให้บูชาพระพุทธเจ้า  พระธรรม พระสงฆ์   ให้ทานคนยากจนกรวดน้ำส่งมาให้แก่พวกเขาด้วย   เพื่อพวกเขาจะได้พ้นทุกข์   พระมาลัยก็นำความมาบอกให้คนทั้งหลายทราบตามที่สัตว์นรกฝากมา   ผู้คนในโลกมนุษย์ก็ได้ทำบุญ   กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้  พวกที่อยู่ในนรกก็ยินดีและกุศลที่ส่งมาก็ทำให้พวกเขาได้ไปเกิดในสวรรค์   เมื่อพระมาลัยเหาะไปยังสวรรค์   ก็ได้พบว่าพวกเขาพ้นทุกข์แล้ว   ก็ได้นำความบอกให้ญาติพี่น้องทั้งหลายในโลกมนุษย์ทราบ และเล่าเรื่องบนสวรรค์ให้คนทั้งหลายทราบ   ทำให้ผู้คนมีความเชื่อในพุทธศาสนามากขึ้น   เร่งทำบุญกันอย่างไม่ประมาทอุทิศบุญกุศลให้แก่ญาติพี่น้องเสมอ   มีใจฝักใฝ่ให้ทานทั่วไปเพราะได้ฟังวาจาของพระมาลัยที่แจ้งให้ทราบโดยละเอียด   วันหนึ่งพระมาลัยได้ออกบิณฑบาตเพื่อโปรดสัตว์   ได้มีชายคนหนึ่งเอาดอกบัว ๘ ดอกมาถวาย   พร้อมทั้งอธิษฐานว่าไม่ว่าจะเกิดในชาติใด   ขอให้อย่ามีความทุกข์และขอให้มีทรัพย์มากมายทุกชาติ   เมื่อพระมาลัยรับดอกบัวแล้วก็คิดถึงเจดีย์จุฬามณีที่บนสวรรค์   จึงเหาะไปยังสวรรค์ เมื่อไปถึงเจดีย์จุฬามณีแล้วก็ทำทักษิณาวัตรรอบเจดีย์นั้น   ถวายนมัสการทั้ง ๘ ทิศและถวายดอกบัวทั้ง ๘ ทิศ   แล้วนั่งลงไหว้ด้วยความชื่นชม   ในขณะนั้นพระอินทร์ก็พาบริวารมานมัสการเจดีย์   พบพระมาลัยจึงพากันมานมัสการพระมาลัยด้วยและถามพระมาลัยว่ามาจากที่ใด   ทำไมจึงมาอยู่ที่นี่   พระมาลัยก็บอกว่าท่านมาจากโลกมนุษย์   มาเพื่อนมัสการพระเจดีย์จุฬามณีและพระมาลัยก็ถามพระอินทร์ถึงสาเหตุที่เทวดาทั้งหลายทำบุญบำเพ็ญกุศลกันอีก    ทั้งๆ ที่ได้รับความสุขอยู่บนสวรรค์แล้ว   พระอินทร์จึงอธิบายว่าที่เทวดาทั้งหลายทำบุญกันก็เพื่อหวังผลบุญในชาติหน้า   จะได้อยู่ในสวรรค์ชั้นที่สูงขึ้น   เป็นการเพิ่มพูนผลบุญให้ยิ่งขึ้นไปอีก   จนกว่าจะถึงนิพพาน
พระมาลัยถามพระอินทร์ถึงพระศรีอาริยเมตไตรย   พระอินทร์บอกว่าพระศรีอาริยเมตไตรย   เสด็จมานมัสการพระเจดีย์ทุกวันพระ คือ วันแปดค่ำและสิบห้าค่ำและวันนี้ก็เป็นวันพระ   พระมาลัยจึงรอการมาของพระศรีอาริยเมตไตรย   ในระหว่างนั้นพระอินทร์ก็เล่าให้พระมาลัยทราบถึงการบำเพ็ญกุศลของเทวดาต่าง ๆ ที่มานมัสการพระเจดีย์จุฬามณีว่าแต่ละองค์ก่อนจะมาเกิดเป็นเทวดา  ได้บำเพ็ญกุศลอะไรไว้บ้าง ดังนี้
เทวดาที่มานมัสการพระเจดีย์พร้อมบริวารร้อยองค์   เมื่อก่อนเป็นมนุษย์ที่ยากจนเข็ญใจ   มีอาชีพเกี่ยวหญ้าขายเลี้ยงชีพให้ทานข้าวเพียงก้อนเดียว   เมื่อตายก็ได้มาจุติบนสวรรค์มีบริวารร้อยองค์  
เทวดาพร้อมบริวารหนึ่งพันองค์เดิมเป็นคนเลี้ยงโคอยู่กลางไร่   เอาอาหารไปให้ทานแก่เพื่อนเลี้ยงโคด้วยกัน   เมื่อตายก็ได้มาเกิดเป็นเทวดา มีบริวารหนึ่งพันและมีรูปโฉมเป็นที่พึงใจ
เทวดาพร้อมบริวารหนึ่งหมื่น   เมื่อตอนเป็นมนุษย์ถวายอาหารแด่สามเณรผู้ถือศีล   ผลบุญส่งให้มาเกิดเป็นเทวดาพรั่งพร้อมไปด้วยสมบัติและบริวาร
เทวดาพร้อมบริวารสองหมื่น   มานมัสการพระเจดีย์พระอินทร์ก็อธิบายให้พระมาลัยฟังว่า  แต่เดิมเป็นมนุษย์ได้ถวายบิณฑบาตแด่พระสงฆ์   เมื่อตายก็ได้เกิดบนสวรรค์ มีบริวารสองหมื่น  หากบุคคลใดได้ทำบุญก็จะได้ผลเช่นกัน
เทวดาองค์หนึ่งมีรัศมีโชติช่วง   พร้อมด้วยบริวารสามหมื่นมานมัสการเจดีย์   เดิมเป็นเศรษฐีชื่อบริบาล มีศรัทธาในพระรัตนตรัย   ทำบุญให้ทานทั้งผ้า อาหาร และยา ด้วยผลบุญนี้ทำให้มาจุติเป็นเทวดา   มีบริวารสามหมื่น
เทวดาพร้อมด้วยบริวารสี่หมื่น  เดิมเป็นช่างทอผ้าที่ยากจนได้ถวายเครื่องอัฐบริขารแด่พระสงฆ์  เมื่อตายไปจึงได้ไปเกิดเป็นเทวดาเพราะผลบุญที่ทำไว้
เทวดาอีกองค์หนึ่งพร้อมด้วยบริวารห้าหมื่น   เดิมชื่อดิษราช   เป็นผู้ที่บูชาพระรัตนตรัยรักษาพระธรรม  เคารพพระสงฆ์  รักษาศีลแปดในวันอุโบสถเสมอ   ไม่เคยเบื่อหน่ายต่อการทำทานแก่คนยากจน   เมื่อตายไปกุศลจึงส่งให้ได้เกิดเป็นเทวดามีบริวารมากมาย
เทวดาพร้อมบริวารหกหมื่น   เดิมเป็นพระเจ้าแผ่นดินชื่อท้าวอภัยทุษฐ์พอใจให้ทานบำรุง  รักษา  พระรัตนตรัย   ยกย่องพระพุทธศาสนา   อุปถัมภ์บิดามารดา  บริจาคจตุปัจจัย  ให้ทานอยู่เสมอ  รักษาศีลเป็นกิจวัตร   จึงได้มาเกิดเป็นเทวดาที่มีบริวารและสมบัติมากมาย
เทวดาพร้อมบริวารเจ็ดหมื่น   แต่เดิมเป็นสามเณรชื่อเทเวนทร์   รักษาศีลอยู่เสมอ   รับใช้อุปัชฌาย์อย่างดีไม่เคยละเลยหน้าที่ไม่เกียจคร้านในการศึกษาพระธรรม   ผลบุญจึงส่งให้ได้มาเกิดเป็นเทวดา
เทวดาพร้อมบริวารแปดหมื่น  เดิมเป็นคนยากจนเห็นพระสงฆ์บิณฑบาตอยู่ตามทาง   ก็เอาอาหารของตนไปถวายและบอกชาวบ้านให้นำอาหารมาถวายด้วย   ชาวบ้านก็ชื่นชมและนำอาหารมาถวาย   การที่ทำบุญและได้ชักชวนให้ผู้อื่น   ทำบุญด้วยจึงได้รับผลเช่นนี้
เทวดาพร้อมบริวารเก้าหมื่น  เดิมอยู่ที่ลังกาเห็นสถูปบรรจุพระธาตุของพระพุทธเจ้าก็มีความศรัทธา จึงนมัสการและถวายดอกกรรณิการ์อยู่เสมอ   และอุทิศศีรษะเป็นดอกบัวดวงตาทั้งสองต่างดวงไฟ   วาจาต่างเทียน   อุทิศใจต่างเครื่องหอม บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตลอดไป
เทวดาพร้อมบริวารหนึ่งแสน   เดิมอยู่เมืองอนุราช   เป็นคนเกี่ยวหญ้าขายเลี้ยงชีพ รักษาศีล และยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง  ได้ไปพบหาดทรายขาวสะอาด  จึงนำทรายมาสร้างพระเจดีย์ประดับประดาด้วยดอกไม้  แล้วนมัสการด้วยความชื่นชมยินดี  ทำแต่ความดี  ซื่อสัตย์สุจริตอยู่เสมอจึงได้รับผลดังที่ได้เห็นเช่นนี้
จากนั้นพระศรีอาริยเมตไตรยก็เสด็จมาพร้อมกับเทวดานางฟ้าเป็นแสนเป็นโกฏิดูสว่างไสว   สวยงาม เสียงฆ้องกลองดังกึกก้อง   ดุริยางค์บรรเลงไพเราะยิ่งนัก   พระศรีอาริยเมตไตรยอยู่ท่ามกลางบริวาร   งดงามดังพระจันทร์ทรงกลด   เทวดาก็ดุจดวงดาวที่ล้อมรอบพระองค์   มีรัศมีเป็นประกายงดงามสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า   เทพทั้งหลายต่างพากันก้มลงกราบ   พระอินทร์อธิบายให้พระมาลัยฟังว่าเทวดาและนางฟ้าที่แต่งกายด้วยเครื่องประดับขาวสะอาดเป็นประกายวาวประดุจเพชรนั้น   เพราะในชาติก่อนบำเพ็ญกุศลที่ประณีตยิ่ง   ของที่จะทำบุญให้ทานทุกอย่างจะขาวสะอาดทั้งหมด   นอกจากนี้ยังรักษาอุโบสถศีลเป็นนิจและที่แต่งกายด้วยสีเหลืองทั้งหมด   เพราะทำบุญด้วยเครื่องที่มีสีเหลืองล้วน  บูชาพระรัตนตรัยและถือศีลอย่างสม่ำเสมอ   จึงมีรัศมีเป็นสีเหลือง  เหมือนสีแดดในยามเช้านอกจากนี้ยังมีเทวดานางฟ้าที่แต่งกายด้วยเครื่องประดับสีแดง  สีเขียว  ซึ่งแต่ละองค์ได้ทำบุญกุศลมาแล้วทั้งนั้น  จึงได้มาเกิดเป็นเทวดาประดับพระบารมีของพระศรีอาริยเมตไตรย
พระมาลัยถามพระอินทร์ถึงพระศรีอาริยเมตไตรยว่า   ในชาติก่อนนั้นได้ทำบุญอะไรบ้าง   พระอินทร์ก็ตอบว่าปัญญาของท่านน้อยยิ่งนัก   จึงขอตอบแต่พอสังเขปว่าพระศรีอาริยเมตไตรยมีพุทธบารมีสามสถานคือ ปัญญา ศรัทธา วิริยะ พระองค์มีความเพียร มีความสามารถ นมัสการพระรัตนตรัยด้วยกาย วาจา ใจ พร้อมด้วยความสุจริตทุกประการมาเป็นเวลานานนับกัลป์  พระองค์ยังได้บริจาคยิ่งใหญ่ทั้งห้าประการ บำเพ็ญบารมีอย่างครบถ้วน คือ ทศบารมี ทศอุปบารมี และทศปรมัตถ์รวม ๓๐ ประการ  และยังมีคุณวิเศษอีกซึ่งพระอินทร์ไม่สามารถจะเล่าให้หมด  พระศรีอาริยเมตไตรยได้บำเพ็ญเพียรอันยิ่งใหญ่มาเป็นเวลานับอสงไขย   เมื่อบารมีครบถ้วนก็มาอุบัติยังสวรรค์ชั้นดุสิต   และเมื่อครบกำหนดแล้วก็จะเสด็จมายังโลกมนุษย์ เพื่อปฏิบัติพุทธกิจ
ขณะที่พระมาลัยตรัสอยู่กับพระอินทร์นั้น   พระศรีอาริยเมตไตรยพร้อมทั้งบริวารก็เสด็จไปนมัสการพระจุฬามณีกระทำทักษิณาวัตรแล้วบูชาด้วยดอกไม้   ดุริยางค์บรรเลงเพลงเป็นการบูชาแล้วจึงนมัสการพระมาลัยและถามว่าพระมาลัยมาจากไหน   พระมาลัยตอบว่าท่านเป็นมนุษย์มานมัสการพระเจดีย์จุฬามณี   พระศรีอาริยเมตไตรยจึงตรัสถามถึงความเป็นไปในโลกมนุษย์เกี่ยวกับ   การทำบุญกุศลพระมาลัยก็ตอบว่ามนุษย์ส่วนมากทำบุญและปรารถนาจะได้เฝ้าพระศรีอาริยเมตไตรย   พระศรีอาริยเมตไตรยจึงตรัสสั่งพระมาลัยให้มาบอกมวลมนุษย์ว่าถ้าอยากพบพระองค์ก็จงทำบุญกุศล   ฟังเทศน์มหาชาติ รักษาศีล ฟังธรรม นอกจากนี้พระศรีอาริยเมตไตรยยังกล่าวถึงความเป็นไปเมื่อศาสนาของพระสมณโคดมครบห้าพันปีมนุษย์ที่ทำบาป   ก็จะฆ่าฟันกันตาย
จะเหลือแค่ผู้ที่ทำบุญกุศล   จากนั้นในโลกก็จะมีแต่ความสงบสุข   เมื่อพระศรีอาริยเมตไตรยกล่าวจบก็นมัสการลาพระมาลัยกลับไป
พระมาลัยนมัสการพระเจดีย์จุฬามณีและลาพระอินทร์กลับลงมายังโลกมนุษย์   และนำเรื่องพระศรีอาริยเมตไตรยมาเล่าให้มนุษย์ในโลกฟังทุกคนที่ได้ฟังก็ชื่นชมยินดี   ชวนกันทำบุญทำทานจนสิ้นชีวิต   ก็ได้ไปเกิดบนสวรรค์   ตามบุญกุศลที่ตนทำไว้   สำหรับชายที่ถวายดอกบัว ๘ ดอกแด่พระมาลัย   เมื่อตายไปก็ได้ไปเกิดบนสวรรค์   มีวิมานที่สวยงามเต็มไปด้วยดอกบัวพร้อมด้วยนางฟ้าเป็นบริวารหนึ่งพัน  มีความสุขอยู่บนสวรรค์จนพระทั่งสิ้นอายุไขยตามกุศลที่ได้สร้างมา
ตอนจบของเรื่องกวีได้บอกปณิธานของท่านไว้ว่าเดชะบุญ    ที่ได้เพียรพยายามแต่งเรื่องนี้จนสำเร็จ ขอให้ท่านได้พบกับพระศรีอาริยเมตไตรยจากนั้นก็บอกวัน เดือน ปี    ที่ทรงแต่งเรื่องนี้เสร็จ